Social

กล่าวกันว่าตลาดการเทรดนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และหน่วยงานกำกับดูแลไม่สามารถตรวจสอบความเสี่ยงได้ทุกอย่าง ดังนั้น แทนที่จะมุ่งเน้นเฉพาะการกำกับดูแล การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีต้นทุนต่ำและมีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า 1. ถ้าไม่มีการกำกับดูแลจะเป็นยังไง? ถ้าพูดถึงว่าการกำกับดูแลสามารถป้องกันความเสี่ยงทั้งหมดได้ถือว่าเป็นการพูดที่เกินจริงไป แต่อย่างไรก็ตาม การกำกับดูแลที่ดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงส่วนใหญ่ได้เช่นกัน เช่นเดียวกับการกำกับดูแลของ FCA ในอังกฤษ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีกรณีที่เกิดการล้มละลายหรือหนีหาย การปฏิบัติตามข้อกำหนดและความปลอดภัยในด้านนี้จึงถือว่ามีความน่าเชื่อถือและมั่นคงเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีการกำกับดูแลจะเป็นยังไง? ประการแรกเลยนั้น แพลตฟอร์มอาจสร้างสลิปเพจและปัญหาการค้างของระบบขึ้นโดยตั้งใจ เนื่องจากขาดการกำกับดูแล แม้ว่าผู้ใช้งานจะสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่ก็ยากที่จะดำเนินการร้องเรียนหรือเรียกร้องสิทธิได้ ประการต่อมาเลยคือ เงินทุนของคุณอยู่ในสภาพที่ไม่มีการกำกับดูแล ดังนั้นหากแพลตฟอร์มมีการนำเงินของคุณไปใช้ คุณจะไม่ทราบถึงการกระทำดังกล่าวและไม่สาม...

การเทรด Forex แบบมาร์จิ้นคือการใช้เลเวอเรจ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมมูลค่าการลงทุนที่สูงขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง ถือเป็นวิธีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ยกตัวอย่าง เช่น สัญญา Forex หนึ่งล็อตมีมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ หากไม่ใช้การเทรดแบบมาร์จิ้น คุณจะต้องมีเงินทุนเต็มจำนวน 100,000 ดอลลาร์เพื่อทำการซื้อสัญญาหนึ่งล็อต แต่หากใช้การเทรดแบบมาร์จิ้น โดยใช้เลเวอเรจ 100 เท่าคุณจะสามารถซื้อสัญญา Forex หนึ่งล็อตได้ด้วยเงินเพียง 1,000 ดอลลาร์ จากมูลค่ารวม 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งทำให้การเข้าร่วมการเทรดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและช่วยให้สามารถใช้ทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มต้นการเทรด Forex แบบมาร์จิ้น เราต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ 1. การเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว การใช้เลเวอเรจสูงจะช่วยให้คุณสามารถขยายการใช้ทุนได้มากขึ้น แต่นั่นก็เหมือนดาบสองคมเพราะในขณะที่เลเวอเรจสามารถเพิ่มผลกำไรได้แต่ก็ยังทำให้การขาดทุนขยายตัวตามไปด้วย จากตัวอย่างข้างต้นเมื่อใช้เลเวอเรจ 100 เท่าจะทำให้การเคลื่อนไหวเพียงแค่ 1 ดอลลาร์ สามารถส่งผลต่อกำไรหรือขาดทุนได้ถึง100เท...

     การติดตามทิศทางของทองคำผ่านสถานะการถือครองซึ่งถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้บ่อยที่สุดในการศึกษาทองคำ      ปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการถือครองทองคำในตลาดมีข้อมูลหลักอยู่ 4 ชนิดได้แก่ : • การถือครองทองคำของธนาคารกลาง • GOLD ETF • การถือครองทองคำของCFTC • การถือครองทองคำแบบเรียลไทม์ของCOMEX      วันนี้เราจะมาดูความแตกต่างของข้อมูลทั้ง 4 ชนิดเหล่านี้กัน 1. การถือครองทองคำของธนาคารกลาง      คำว่า "การซื้อทองคำของธนาคารกลาง" กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในปีนี้ และหลาย ๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่าการที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับการซื้อทองคำจากธนาคารกลางของแต่ละประเทศ      จริง ๆ แล้วทองคำที่มนุษย์ขุดขึ้นมาทั้งหมดนั้นมีถึงหนึ่งในห้าของทองคำทั้งหมดที่ถูกถือครองโดยธนาคารกลาง โดยจากข้อมูลของสมาคมทองคำโลก ปัจจุบันธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำรวมทั้งสิ้น 27,734.3 ตัน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้ : ยุโรปตะวันตกถือครองทองคำมากที่สุด จำนวน 10,733.58 ตัน รองลงมาคืออเมริกาเหนือที่มีทอ...

      เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ขอใช้เครื่องมือ Order Flow จากแพลตฟอร์ม EBC และพบเครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า การกระจายของคำสั่งซื้อล่วงหน้า      เครื่องมือที่เราใช้กันบ่อยคือแผนภูมิการกระจายคำสั่งที่ดำเนินการแล้วในเครื่องมือ Order Flow ซึ่งแสดงถึงคำสั่งซื้อขายที่ได้ดำเนินการไปแล้วในตลาด เพื่อให้เราเห็นภาพรวมของพลังตลาดที่เปรียบเทียบกันได้และช่วยในการระบุตำแหน่งที่มีการแย่งชิงกันอย่างชัดเจน      ตัวอย่างเช่น คุณจะเห็นว่าบริเวณที่มีการสะสมของปริมาณการซื้อขายอย่างหนาแน่น มักจะมีแนวโน้มราคาที่เคลื่อนไหวแบบทรงตัว และจุดที่มีการทะลุแนวราคามักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีปริมาณการซื้อขายน้อย      คุณสามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า ยิ่งมีการสะสมของปริมาณการซื้อขายมากเท่าไร การแย่งชิงในตลาดก็ยิ่งรุนแรง จึงทำให้ราคาคงตัวอยู่ในช่วงแคบ ๆ แต่เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดแรงในการสะสมปริมาณการซื้อขาย ฝ่ายที่ได้เปรียบก็สามารถผลักดันราคาให้เคลื่อนไหวได้ด้วยปริมาณการซื้อขายเพียงไม่กี่รายการ      จากการสะสมของปริมาณการซื้อขายและการเคลื่อนไหวของคำสั่งซื้อในตลาด...