ความแตกต่างระหว่างการถือครองทองคำของธนาคารกลาง, GOLD ETF, การถือครองของ CFTC และการถือครองทองคำแบบเรียลไทม์ของ COMEX
การติดตามทิศทางของทองคำผ่านสถานะการถือครองซึ่งถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้บ่อยที่สุดในการศึกษาทองคำ
ปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการถือครองทองคำในตลาดมีข้อมูลหลักอยู่ 4 ชนิดได้แก่ :
• การถือครองทองคำของธนาคารกลาง
• GOLD ETF
• การถือครองทองคำของCFTC
• การถือครองทองคำแบบเรียลไทม์ของCOMEX
วันนี้เราจะมาดูความแตกต่างของข้อมูลทั้ง 4 ชนิดเหล่านี้กัน
1. การถือครองทองคำของธนาคารกลาง
คำว่า "การซื้อทองคำของธนาคารกลาง" กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในปีนี้ และหลาย ๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่าการที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับการซื้อทองคำจากธนาคารกลางของแต่ละประเทศ
จริง ๆ แล้วทองคำที่มนุษย์ขุดขึ้นมาทั้งหมดนั้นมีถึงหนึ่งในห้าของทองคำทั้งหมดที่ถูกถือครองโดยธนาคารกลาง โดยจากข้อมูลของสมาคมทองคำโลก ปัจจุบันธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำรวมทั้งสิ้น 27,734.3 ตัน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้ :
- ยุโรปตะวันตกถือครองทองคำมากที่สุด จำนวน 10,733.58 ตัน
- รองลงมาคืออเมริกาเหนือที่มีทองคำ 8,133.46 ตัน แม้ว่าเราจะพูดถึงอเมริกาเหนือ แต่แคนาดากลับไม่มีการสำรองทองคำเลย ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่มีการสำรองทองคำมากที่สุดในภูมิภาคนี้
- เอเชียตะวันออกถือครองทองคำอยู่ที่ 3,110.29 ตัน
สามภูมิภาคนี้ถือครองทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกเกือบทั้งหมด ซึ่งจำนวนนี้ถือเป็นจำนวนที่น่ากลัวมากเมื่อเทียบกับทองคำใน GOLD ETF ทั่วโลกที่มีเพียง 3,207.2 ตันหรือประมาณหนึ่งในแปดของทองคำที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือครอง
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทองคำที่ธนาคารกลางถือครองจะคำนวณตามราคาทองคำของ LBMA ณ สิ้นไตรมาส ซึ่งเป็นราคาทองคำแบบสปอต ดังนั้น หากการสำรองทองคำของธนาคารกลางมีการเปลี่ยนแปลงมาก ก็อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำสปอตในตลาดอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม มูลค่าของการสำรองทองคำของธนาคารกลางในแต่ละไตรมาสจะค่อนข้างคงที่ ข้อมูลจากสถิติการเงินระหว่างประเทศจะมีความล่าช้าประมาณสองเดือนในการเผยแพร่ ดังนั้น ข้อมูลการสำรองทองคำของธนาคารกลางจะมีผลกระทบต่อทิศทางของตลาดทองคำในระยะยาวได้อย่างชัดเจน แต่ผลกระทบในระยะสั้นจะมีไม่มากนัก
2. GOLD ETF
ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึง GOLD ETF ไปบ้างแล้ว
จริง ๆ แล้ว GOLD ETF เป็นการถือครองทองคำในรูปแบบของสินทรัพย์จริงผ่านกองทุนเปิด กองทุนปิด หรือกองทุนรวมต่าง ๆ ซึ่งทำให้สามารถสะท้อนถึงผลกระทบของทองคำจริงต่อตลาดทองคำได้
ก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึงว่า GOLD ETF ทั่วโลกมีมูลค่ารวมเทียบเท่ากับทองคำ 3,207.2 ตัน ซึ่งข้อมูล GOLD ETF ที่เราเห็นในชีวิตประจำวันนั้นคือ SPDR ซึ่งมีขนาดประมาณ 389.8 ตัน หรือคิดเป็นมากกว่า 12% ของทั้งหมด และสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของตลาด GOLD ETF ทั้งหมด
ถึงแม้จำนวนทองคำจริงใน GOLD ETF จะมีไม่มากเท่ากับการสำรองทองคำของธนาคารกลาง แต่ราคาของ GOLD ETF มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างรวดเร็วและตรงจุดที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นตัวชี้วัดที่ดีในการติดตามอารมณ์ของตลาด
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของ GOLD ETF คืออาจจะเป็นการที่ราคาทองคำจากสินทรัพย์จริงมีความล่าช้าอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีความรวดเร็วมากกว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลาง เมื่อ GOLD ETF ในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนราคาทองคำก็จะสะท้อนผลกระทบในเวลาค่อนข้างเร็ว
จุดนี้มีความสำคัญมากเพราะฟิวเจอร์สเป็นการซื้อขายสัญญาผ่านการประมูลรวม โดยไม่เกี่ยวข้องกับทองคำจริง ทำให้ไม่มีระยะเวลาในการถ่ายทอดราคาจากทองคำจริงไปยังราคาฟิวเจอร์ส ส่งผลให้ฟิวเจอร์สมีอิทธิพลโดยตรงต่อราคาทองคำ จึงเป็นแหล่งที่มาที่สำคัญในการกำหนดราคาทองคำและส่งผลโดยตรงต่อราคาทองคำในตลาดสปอต
ปัจจุบันบนแพลตฟอร์ม EBC จะมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ GOLD ETF ทุกวันซึ่งสามารถใช้เป็นช่องทางในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของการถือครองได้
3. การถือครองทองคำของ CFTC
หลายคนที่ทำการเทรดน่าจะเคยได้ยินชื่อ CFTC (Commodity Futures Trading Commission) ซึ่งจะมีการเผยแพร่ข้อมูลการถือครองทองคำทุกสัปดาห์
ตามภาพด้านล่าง การถือครองฝั่งซื้อที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์คือการถือครองฝั่งซื้อของสถาบันและกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ส่วนการถือครองฝั่งขายที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์คือการถือครองฝั่งขายของสถาบันและกองทุนเฮดจ์ฟันด์
ข้อมูลดิบอาจจะอ่านค่อนข้างยาก ดังนั้นหลาย ๆ องค์กรจึงทำรายงานในรูปแบบนี้ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นและเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
ข้อมูล CFTC ต่างจากข้อมูลการถือครองที่พูดถึงก่อนหน้านี้ เพราะมาจากตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งสะท้อนถึงตำแหน่งในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำ โดยตลาดหลักคือ COMEX ของนิวยอร์ก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตั้งราคาทองคำฟิวเจอร์สมากกว่า 70% ของตลาดโลก
การพุ่งขึ้นของราคาทองคำอย่างรวดเร็วที่เราเห็นบ่อยครั้งนั้น มักเกิดจากการที่สถาบันการเงินมีการถือครองตำแหน่งที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์จำนวนมาก ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจในระยะสั้น
น่าเสียดายที่ข้อมูลการถือครองของ CFTC จะได้รับการสรุปในวันอังคารและเผยแพร่ในวันศุกร์ ซึ่งในช่วงนี้ตำแหน่งการถือครองแบบเก็งกำไรก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ บางครั้งสถาบันการเงินอาจใช้เวลาช่วงที่ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่ในการซื้อขายอย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งวางกับดักไว้ล่วงหน้า
4. การถือครองทองคำแบบเรียลไทม์ของ COMEX
การถือครองแบบเรียลไทม์ของ COMEX คือข้อมูลที่ตรงข้ามกับการถือครองทองคำของ CFTC
ความแตกต่างคือข้อมูลนี้ไม่ได้มาจากรายงานการถือครองที่ CFTC สรุปจากการถือครองของแต่ละสถาบันและใช้เวลาหลายวันในการเผยแพร่ แต่ข้อมูลนี้มาจากการเชื่อมต่อโดยตรงกับตลาด ทำให้สามารถรับข้อมูลการถือครองได้แบบเรียลไทม์
ในแง่ของลักษณะข้อมูลข้อมูลการถือครองแบบเรียลไทม์ของCOMEXมีข้อดีทั้งหมดดังนี้:
• เป็นข้อมูลฟิวเจอร์สที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของการถือครองแบบเก็งกำไร
• เป็นข้อมูลเรียลไทม์ที่มีความไวต่อราคาสูง แทบไม่มีความล่าช้าเลย
ข้อมูลการถือครองทองคำแบบเรียลไทม์จาก COMEX มีความท้าทายหลักในเรื่องของการเข้าถึงข้อมูล โดยทั่วไปแล้ว ตลาดจะให้ความร่วมมือกับธนาคารหรือสถาบันการเงินขนาดใหญ่เท่านั้น แต่สำหรับแพลตฟอร์มการเทรด จะต้องมีคุณสมบัติที่ผ่านมาตรฐานที่เข้มงวด เช่น แพลตฟอร์ม EBC ซึ่งได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับสูง เช่น FCA ของสหราชอาณาจักร และ ASIC ของออสเตรเลีย ทำให้ EBC เป็นหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้
ข้อที่สองคือ เมื่อแพลตฟอร์มเชื่อมต่อกับข้อมูลได้แล้ว ก็ต้องมีระบบฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะข้อมูลการเทรดที่แพลตฟอร์มทั่วไปใช้มักจะเป็นข้อมูลแบบภาพรวมที่อัปเดตแค่ 1-3 ครั้งต่อวินาที ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการเทรดที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และความถี่สูง
ดังนั้นหากต้องการข้อมูล COMEX แบบเรียลไทม์ จำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลในระดับ Tick ซึ่งหมายถึงการอัปเดตข้อมูลทุก ๆ หลายสิบหรือหลายมิลลิวินาที ทำให้ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่าปกติหลายสิบเท่า ดังนั้น ระบบและฮาร์ดแวร์ที่ใช้จึงต้องมีความสามารถที่สูงตามไปด้วย ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากคุณสมบัติของฮาร์ดแวร์ของ EBC ที่รองรับการทำงานในลักษณะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อที่สามคือ การประมวลผลข้อมูล เช่น ข้อมูลการถือครอง COMEX ที่ EBC Group ให้บริการนั้น ไม่เพียงแค่ข้อมูลพื้นฐาน แต่ยังรวมถึงฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ เช่น Tick, การสะสมความไม่สมดุล และ POC ซึ่งทำให้สามารถนำข้อมูลการถือครอง COMEX ไปใช้ได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น
ข้างต้นที่กล่าวมานั้นคือความแตกต่างของการถือครองทองคำทั้งสี่ประเภทที่พบเห็นได้บ่อย
ซึ่งทั้งสี่วิธีนี้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ในการใช้งานจริงเราสามารถเลือกใช้และปรับให้เหมาะสมกับความต้องการในการเทรดของเราได้


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น